สินทรัพย์ ประกันภัย

ก่อตั้งเมื่อ
ในวันที่ 19 สิงหาคม 2525 บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงและตอบสนองการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศด้านการประกันวินาศภัย ภายใต้พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2510 ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 – 2534 บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริษัท อันส่งผลดีให้สามารถขยายกิจการได้มากขึ้นโดยได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากธนาคารและสถาบันการเงินภายในประเทศ หลายแห่ง
ทุนจดทะเบียน
60 ล้านบาท
จุดเด่นของบริษัท
จากความสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้าน และ 150 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2534 และ พ.ศ. 2539 ตามลำดับ ในขณะเดียวกันยังได้มีการปรับ โครงสร้างบริษัทฯเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการบริการโดยมีการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆทั้งระบบ และเพื่อเป็นการก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ปี ค.ศ. 2000 บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายระยะยาวด้านการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของบุคลากรด้วยการส่งเข้ารับการอบรมหลักสูตรประกันภัยในสถาบันชั้นนำหลายแห่งรวมทั้งการจัดอบรม ภายในเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง มีการวางแผนพัฒนาการตลาดและการประชาสัมพันธ์ด้วย Internet ซึ่งเป็นระบบสื่อสารสมัยใหม่ที่มีความรวดเร็วอย่างไร้พรมแดนและยังได้เชิญผู้มีประสบการณ์ด้านการ ด้านการประกันวินาศภัยเข้ามาร่วมในการบริหารงานเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วย บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด ได้มุ่งพัฒนาศักยกภาพการบริหารงานและการบริการอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันนำมาซึ่งความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 คือมาตรฐานที่บริษัทฯได้รับจึงเปนการแสดงให้เห็นถึงระบบการดำเนินงานและการบริการของบริษัทฯ ที่มีคุณภาพและมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุก ระดับอย่างแท้จริง ในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท และโครงสร้างบริษัทอีกครั้ง เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการพัฒนาองค์กรที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นในภาวะที่ เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวบริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนขี้นเป็น 200 ล้านบาทได้อีกด้วย อันแสดงให้เป็นถึงความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจได้อย่างชัดเจน และยังมีนโยบายที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนขึ้นอีก 100 ล้านบาทจนครบ 300 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2546 เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและทำให้บริษัทฯมีฐานะที่แข็งแกร่งมั่นคงตลอดไป ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯประกอบด้วย บิวตี้เจมส์ กรุ๊ป (กลุ่มธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับอันดับหนึ่งของประเทศไทย) ฮอนด้าปิ่นเกล้า กรุ๊ป (กลุ่มธุรกิจยานยนต์และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์) โดยใน กลุ่มบิวตี้เจมส์และกลุ่มฮอนด้าปิ่นเกล้า ยังมีกิจการในเครืออีกหลายประเภท อาทิ โรงแรม สนามกอล์ฟ และ ภัตตาคาร เป็นต้น บริษัทน้ำตาลเอกผล จำกัด และกลุ่มบริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้งจำกัด